รีวิว ” Exhuma” ขุดผีมาจากหลุม แต่ปลายทางไปไกลเกินกว่าผี

รีวิว Exhuma ขุดผีมาจากหลุม แต่ปลายทางไปไกลเกินกว่าผี แบบคาดไม่ถึง

ดูหนังกับหมี ขอพาทุกคนไปพบกับรีวิวภาพยนตร์ระทึกขวัญ “EXHUMA ขุดมันขึ้นมาจากหลุม” ที่รวมตัว 4 ดาราคุณภาพฝีมือระดับพระกาฬ ไม่ว่าจะเป็น ซอยมินซิก, ยูแฮจิน, อีโดฮยอน และ “น้องหมวย” คิมโกอึน ซึ่งกวาดรายได้ถล่มทลายที่เกาหลีใต้

สำหรับคอหนังที่ชื่นชอบผลงานภาพยนตร์แนวลึกลับแบบผีหลอกวิญญาณหลอน Exhuma ของผู้กำกับ จางแจฮยอน เรื่องนี้อาจจะตอบโจทย์ไม่ได้เท่าที่คาดหวังกันไว้ แต่ก็สนุกมากตามสไตล์หนังปีศาจ

ของดีเกาหลีสมคำร่ำลือเลยจริงๆ เชียร์มากเรื่องนี้ สำหรับใครที่คิดว่าหนังจะหลอนหรือน่ากลัวจนดูไม่ได้รึเปล่าบอกเลยว่า มาดูเถอะ หนังไม่ได้น่ากลัวหรือหลอนอะไร แต่เป็นหนังที่เล่าเรื่องได้สนุกแบบจัดๆ โคตรน่าติดตามตั้งเริ่มยันจบเรื่อง ว่ามันจะไปสุดที่จุดไหน

ภาพยนตร์เรื่องนี้ผสมผสานเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ, พิธีกรรมหมอผีและธรรมเนียมพื้นบ้านเกาหลี เข้ากับประวัติศาสตร์บาดแผลของประเทศเกาหลีกับญี่ปุ่น บรรยากาศของหนังเป็นโทนตึงเครียดเชิงจิตวิทยา ผสมกับความลุ้นระทึกแบบภูติปีศาจ จึงขาดความหลอนเสียวสันหลังไปอย่างน่าเสียดาย

ขึ้นแท่นหนังสยองขวัญที่ถูกจับตามองมากที่สุดไตรมาสแรกของปี สำหรับ Exhuma (ชื่อไทย : ขุดมันขึ้นมาจากหลุม) หนังเกาหลีที่สร้างปรากฏการณ์ทำลายสถิติมากมาย ทำยอดขายตั๋วมากกว่า 10 ล้านใบเรียบร้อย นอกจากจะขึ้นแท่นหนังทำเงินอันดับ 1 ของปีที่นั่น (ชนะ Dune : Part Two) ยังกลายเป็นหนังสยองขวัญที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลที่เกาหลีอีกด้วย นอกจากกระแสรีวิวในแง่บวกแล้ว ด้วยพลังของ 4 นักแสดงนำที่เบอร์ใหญ่หมด ทั้ง ชเวมินซิก (จาก The Admiral : Roaring Current), ยูแฮจิน (จาก Confidential Assignment), คิมโกอึน (จาก Guardians : The Lonely and Great God) และ อีโดฮยอน (จาก The Glory) ยิ่งส่งให้ Exhuma คือหนังโปรแกรมยักษ์ที่ทั้งวงการจับตามอง จนในที่สุดสัปดาห์นี้ ถึงคิว Exhuma เข้าฉายในหลาย ๆ ประเทศ ทั้งอเมริกา รวมถึงประเทศไทย ที่วางโปรแกรมในสัปดาห์นี้

เส้นเรื่องของ ‘ขุดมันขึ้นมาจากหลุม’

เรื่องย่อของ Exhuma ว่าด้วยภารกิจสุดลึกลับและชวนขนลุกของสองคู่หุหมอผี (คิมโกอึน และ อีโดฮยอน) , ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย (ชเวมินชิก ) และ เจ้าหน้าที่ประจำห้องเก็บศพ (ยูแฮจิน) ที่ต้องร่วมมือกันหาสาเหตุของเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่ก่อกวนครอบครัวเศรษฐีใหญ่ของเกาหลีซึ่งย้ายไปพำนักในสหรัฐ วิธีแก้ที่พวกเขาคิดได้คือการขุดสุสานบรรพบุรุษของตระกูลขึ้นซึ่งฝังอยู่บนเขาบ้านห่างไกลของเกาหลี แล้วทำพิธีเผา ซึ่งนั่นคือจุดเรื่องต้นของความสยองที่ไม่มีใครนึกถึง

ทีมผู้เชี่ยวชาญทั้ง 4 เริ่มขุดสุสานบนภูเขาอย่างระมัดระวัง ทันทีที่ตรวจสภาพของสุสาน ซังด็อก ผู้เชี่ยวชาญฮวงจุ้ยก็ประกาศว่าโลงศพถูกฝังอยู่ “ในจุดอัปมงคลที่สุด” อีกด้านหนึ่งก็ประกอบพิธี “บูชายัญ” เพื่อขับไล่และปลอบวิญญาณร้ายซึ่งอาจแฝงตัวอยู่ในโลง

Exhuma รีวิว

ประธานพัค หัวหน้าครอบครัวซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างให้ขุดสุสานขอร้อว่าอย่าเปิดโลงศพ แต่ให้ทำการเผาทันที การกระทำเช่นนี้ถือว่าขัดต่อธรรมเนียมและกฎของการจัดการศึก อย่างไรก็ตาม การเผาศพต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่คาดคิดเนื่องจากสภาพอากาศย่ำแย่ เมื่อโลงศพถูกเคลื่อนย้ายไปห้องเก็บศพชั่วคราว “สิ่งอันตรายบางอย่าง” ก็เล็ดลอดออกมา

ในช่วงครึ่งแรกของหนังที่มีความยาว 134 นาทีนั้น สร้างความตึงเครียดจากพลังลึกลับของผี ผสมกับความคาดหวังว่าเหตุการณ์อันเลวร้ายจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ตรึงคนดูด้วยการเล่าเรื่องลงลึกอ้างอิงขนบธรรมเนียมด้านวิญญาณของเกาหลี ขับเรื่องด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมของทีมนักแสดง

เรื่องย่อ Exhuma

ซึ่งหลังจากดูจบก็เข้าใจว่าทำไมหนังมันทำเงิน เนื้อเรื่องสนุกแบบนี้นี่เอง นักแสดงแต่ละคนคือคัดมาแล้วทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่ตัวประกอบญาตินางเอกในตอนท้าย หนังเริ่มเรื่องที่ ฮวาริม และ บงกิล ได้รับการติดต่อให้ไปช่วยเหลือครอบครัวเกาหลีที่อเมริกา ซึ่งพวกเค้าได้เจอกับเหตุการณ์แปลกประหลาดหลายอย่างจากทั้งทายาทที่อยู่ในปัจจุบันและทายาทที่เพิ่งเกิดมากจาตระกูลนี้ สืบไปสืบมาก็ได้ความว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นอาจมีส่วนมาจากบรรพบุรุษที่ได้เสียไปแล้ว ทำให้ ฮวาริมและบงกิลต้องกลับมายังเกาหลี และขุดร่างนั้นขึ้น โดยมีข้อแม้ว่าห้ามเปิดดูในโรงเด็ดขาด หลังจากนั้นเหตุการณ์ชวนขนลุกก็ตามมาเรื่อยๆ

หนังบิ๊วคนดูตั้งแต่เริ่มเรื่อง เผยให้เห็นว่าแต่ละตัวละคมีหน้าที่อะไรบ้าง อย่างฮวาริมก็เป็นเหมือนร่างทรงสำหรับคนที่ตายไปแล้ว ส่วน บงกิล (อีโดฮยอน) ก็เป็นเหมือนคู่หูร่างทรง ที่สำคัญคือหล่อมากกกกก ไม่ต้องทำอะไรออกมายืนเฉยๆคนดูก็ไม่ว่าไรหรอกคนนี้ 5555555555555 ส่วนตัวละครสำคัญอีก 2 คนคือ ซางด็อก ซินแสดูฮวงจุ้ยหาทำเลหลุมศพให้คนรวย กับอีกคนคือ สัปเหร่อสายฮา อย่างยองกึน ที่เหมือนเป็นตัวเบรกความตึงเครียดของหนังให้ดูมีสีสันมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดต้องร่วมมือกันขุดร่างที่ว่ากันว่าถูกฝังไว้ในพื้นที่ที่ไม่ควรอยู่ออกมา

ระหว่างดูไปถึงช่วงประมาณองค์ 3 ของหนังที่เหมือนจะจบภารกิจแล้ว ได้แอบเหลือบมองนาฬิกา เวลายังเหลืออีกเป็นชั่วโมง เลยสงสัยว่าหนังจะไปยังไงต่อ สุดท้ายหนังก็ประเคนมิชชั่นที่ใหญ่กว่าภารกิจแรกมาซึ่งต้องบอกว่าเกินคาดและเนื้อหาไปไกลเกินกว่าจะจินตนาการถึงเลยจริงๆ ขอไม่บอกว่าคืออะไรไปดูกันเอาเอง เชื่อว่าน่าจะมีคนเกาหัวแกรกๆแบบนึกในใจว่าพี่ไปเวย์นี้เลยหรอวะแล้วอาจไม่ชอบแน่ๆ แต่ส่วนตัวผมชอบมาก รู้สึกว่าเกาหลีเค้าแน่จริง เปลี่ยนหนังผีที่ดูเหมือนจะธรรมดาให้ดูไม่ธรรมดาคือเล่นใหญ่รัชดาลัยแบบสุดดดด ต้องบอกว่าช่วง 30 นาทีสุดท้ายของหนังคือทำถึงมากกก ชวนระทึกตื่นเต้นลุ้นจนนั่งไม่ติดเก้าอี้เลย

นี่คือหนังที่คอลแลปกันระหว่างหนังสืบสวนสอบสวนกับหนังผีได้อย่างลงตัว ให้อารมณ์เหมือนจักรวาล The Conjuring แต่มีความเอเชียที่ทำให้คนไทยอย่างเราอิน ดูสนุกตั้งแต่นาทีแรกยันนาทีสุดท้าย

หนังนำเสนอความเชื่อเกี่ยวกับโลกวิญญาณ ภูติผี พิธีกรรมต่าง ๆ ของเกาหลีให้เราได้ดูกันแบบจุก ๆ เพราะตัวละครหลักมีทั้ง คนทรง ซินแส และสัปเหร่อ มาครบหมดจบ

การรวมตัวของสุดยอดฝีมือ 2 ดาราซูเปอร์เก๋า ซอยมินซิก กับ ยูแฮจิน เล่นเอาคนดูอยู่หมัดทั้งเรื่อง และมาพร้อม 2 ดารารุ่นน้อง คิมโกอึน กับ อีโดฮยอน ที่เป็นอาหารตาอาหารใจให้กับผู้ชม แถมฝีไม้ลายมือในการแสดงก็ไม่ธรรมดา เคมีการแสดงของทั้ง 4 คนเข้ากัน จนยกให้เป็น “ดรีมทีม” ได้เลย และ “น้องหมวย” สวยจริง ๆ เป็นเชอรี่บนยอดขนมเค้กที่แท้ทรูในหนังเรื่องนี้

บรรยากาศของหนัง ทีมผู้สร้างคุมโทนได้ดีมาก ๆ ทั้งภาพ สี เสียง ทำให้เราไม่หลุดสมาธิออกไปจากหนังเลยตลอดทั้งเรื่อง

สรุป เป็นอีกหนึ่งของดีจากเกาหลีที่เชื่อว่าน่าจะชอบกันนะ หนังดูง่ายเล่าเรื่องสนุก แค่เข้าไปดูนักแสดงก็คุ้มแล้ว นอกจากอีโดฮยอนที่มุมไหนก็หล่อ คิมโกอึนเรื่องนี้สวยมากกกก

นักแสดงคือของดีของเรื่อง

นักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง ชเวมินซิก ถ่ายทอดภาพซังด็อก ผู้เชี่ยวชาญฮวงจุ้ยมากประสบการณ์ผู้รู้ว่ากำลังเผชิญกับอะไร แม้กระนั้น เขาก็ยังคงทำงานด้วยจรรยาบรรณแบบไม่กลัวชีวิต ส่วน คิมโกอึน ก็แปลงโฉมได้อย่างสมบูรณ์แบบเป็นหมอผีรุ่นเยาว์ผู้ทำพิธี “บูชายัญ” โบกสะบัดมีดคมกริบและคาบมีดไว้ในปากเพื่อขับไล่วิญญาณร้ายที่สิงอยู่ในตระกูล

ทว่าความตึงเครียดกลับคลี่คลายลงอย่างกะทันหันเมื่อพลังร้ายซึ่งเป็นแก่นของความลึกลับในภาพยนตร์เรื่องนี้เผยตัวออกมา พลิกโทนเรื่องจาก “ผี” ไปเป็น “ปีศาจ” การเดินเรื่องหลังจากนั้นเน้นการอธิบายปมและวิธีแก้ไขอย่างละเอียดเพื่อให้ผู้ชมเข้าใจ ไม่เหลือพื้นที่ให้จินตนาการเลย

นักแสดง Exhuma

ใน “Exhuma” ผู้กำกับพยายามนำเสนอหนังลึกลับเหนือธรรมชาติมุมมองใหม่ โดยเพิ่มสิ่งมีชีวิตคล้ายซอมบี้ซึ่งมีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ในบริบทประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ยังน่าสงสัยว่าเขาจะส่งสารนี้กลับถึงบ้านด้วยความน่าสนใจมากน้อยเพียงไร

หนังเรื่องนี้จึงค่อนข้างคาบเกี่ยวอยู่พอสมควรว่าจะถูกใจสายหนังผีสยองขวัญหรือไม่ แต่ผู้เขียนเข้าไปดูแล้ว ยอมรับว่าไม่่รู้สึกหลอนติดตัวเมื่อดูจบ แต่ก็สนุกลุ้นระทึกระหว่างรับชมไปจนถึงฉากสุดท้าย

Exhuma สนุกไหม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *